Blue Ocean Strategy คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำธุรกิจ
"Blue Ocean Strategy" (ยังเรียกว่า กลยุทธ์มหาสมุทรสีน้ำเงิน) เป็นแนวคิดทางธุรกิจที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย W. Chan Kim และ Renée Mauborgne ในหนังสือชื่อเดียวกันที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2005 โดยแนวคิดหลักของ Blue Ocean Strategy คือการสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่ที่ไม่มีคู่แข่ง หรือ "ท้องทะเลสีน้ำเงิน" ที่ไม่มีการแข่งขันรุนแรงและที่นักธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างและความพิเศษในตลาดได้ โดยไม่จำเป็นต้องแข่งขันโดยตรงกับคู่แข่งที่มีอยู่แล้วในตลาดที่แออัดและแข่งขันรุนแรง เหมือนกับ Red Ocean Strategy (ท้องทะเลสีแดง)
แนวคิด Blue Ocean Strategy
แนวคิด Blue Ocean Strategy มุ่งเน้นการค้นหาวิธีในการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เหมือนใครในตลาด ผู้ประกอบการสามารถทำได้โดยการพิจารณาเพิ่มค่าและสร้างข้อได้เปรียบในด้านต่าง ๆ เช่น คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดส่ง การบริการลูกค้า เป็นต้น
ผลที่ได้คือการสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่ที่ไม่มีคู่แข่งในท้องทะเลสีน้ำเงิน ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตและรวยขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในการแข่งขันรุนแรงในท้องทะเลสีแดงที่อาจเต็มไปด้วยคู่แข่งที่มีอยู่แล้ว โดยอาจใช้ใช้กลยุทธ์ CLV เสริมเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่มากขึ้น
ยกตัวอย่างของ Blue Ocean Strategy คือ Apple เมื่อเปิดตลาดสมาร์ทโฟนด้วย iPhone ซึ่งสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่และสร้างความแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือทั่วไปที่มีอยู่แล้วในตลาด
ดังนั้น "Blue Ocean Strategy" หมายถึงแนวคิดในการสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่ที่ไม่มีคู่แข่ง และทำให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามการแข่งขันรุนแรงในท้องทะเลสีแดงไปสู่ท้องทะเลสีน้ำเงินได้
ใช้ Blue Ocean Strategy ในโอกาสใดบ้าง
การใช้ Blue Ocean Strategy เพื่อสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่และสร้างความแตกต่างในตลาดมีขั้นตอนที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้
- การวิเคราะห์ท้องทะเลสีแดง (Red Ocean Analysis): วิเคราะห์ตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน (ท้องทะเลสีแดง) เพื่อทำความเข้าใจถึงคู่แข่งที่มีอยู่และปัญหาที่เกิดขึ้น นี่เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าในแนวทางใดคุณสามารถสร้างความแตกต่างได้
- การค้นหาท้องทะเลสีน้ำเงิน (Blue Ocean Exploration): ค้นหาโอกาสและพื้นที่การแข่งขันใหม่ที่ไม่มีคู่แข่ง โดยพิจารณาเรื่องที่แตกต่างอย่างมากจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีอยู่ในตลาด
- การสร้างและพัฒนาพื้นที่สีน้ำเงิน (Creating Blue Ocean): ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณค่าและความแตกต่างสูง เน้นไปที่ปัจจัยที่สร้างความพิเศษในตลาดและเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า
- การสร้างความเข้าใจและความได้เปรียบ (Building Understanding and Buy-in): ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจในพื้นที่สีน้ำเงินของคุณให้กับทีมงานและผู้บริโภค ในการสร้างความเข้าใจและความได้เปรียบ ซึ่งสำคัญในการทำให้เกิดการยอมรับและการสนับสนุนจากทุกฝ่าย
- การดำเนินการและการนำเสนอ (Execution and Rollout): นำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ออกสู่ตลาดและจัดการดำเนินงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงาน
- การตรวจสอบและปรับปรุง (Review and Iterate): ตรวจสอบผลลัพธ์และปรับปรุงแผนการดำเนินงานตามที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงในตลาด
แนวคิด Blue Ocean Strategy เหมาะกับธุรกิจแบบใด
แนวคิด Blue Ocean Strategy เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างความแตกต่างและความสำเร็จที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในตลาด แต่ต้องการความก้าวหน้าที่ไม่ต้องการการแข่งขันรุนแรงในท้องทะเลสีแดงที่อาจทำให้ผลตอบแทนต่ำลง การปฏิบัติตามหลักของ Blue Ocean Strategy อาจช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและสร้างความสำเร็จในระยะยาวได้
Blue Ocean Strategy vs 3C Winning Zone ใช้กลยุทธ์ไหนดี?
การใช้ Blue Ocean Strategy ร่วมกับโมเดล 3C Winning Zone เป็นวิธีการที่สามารถช่วยให้คุณสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่และสร้างความแตกต่างในตลาดได้ โมเดล 3C Winning Zone เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ช่วยในการวิเคราะห์และพัฒนากลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและความแตกต่างขององค์กรของคุณ โดยโมเดลนี้มีสามส่วนสำคัญ คือ Customer, Company, และ Competitor (3C) ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ว่าจะสร้างและพัฒนาพื้นที่สีน้ำเงินอย่างไรในแนวคิด Blue Ocean Strategy
- Customer (ลูกค้า): การวิเคราะห์ลูกค้าเป็นส่วนสำคัญในการเริ่มต้นด้วย Blue Ocean Strategy ในโมเดล 3C Winning Zone คุณต้องสำรวจและเข้าใจความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าเป้าหมาย ทำความเข้าใจถึงปัญหาที่พวกเขาพบ และวิเคราะห์ว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดในการตัดสินใจของลูกค้า
- Company (องค์กร): แนวคิด Blue Ocean Strategy ต้องสอดคล้องกับความสามารถและทรัพยากรที่องค์กรคือมีอยู่ ในโมเดล 3C Winning Zone คุณควรทำความเข้าใจในความแตกต่างและความเข้มแข็งขององค์กรเรา รวมถึงความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
- Competitor (คู่แข่ง): การทราบข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจในการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม ในโมเดล 3C Winning Zone คุณควรทำความเข้าใจถึงแรงและความอ่อนแอของคู่แข่ง ซึ่งจะช่วยในการพัฒนากลยุทธ์ที่สามารถกักขาดการแข่งขันรุนแรง
ในการรวมกันระหว่าง Blue Ocean Strategy และโมเดล 3C Winning Zone คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- วิเคราะห์ 3C Model Winning Zone: เริ่มต้นโดยการทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากลูกค้า องค์กรของคุณ และคู่แข่ง ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า ทรัพยากรและความเข้มแข็งขององค์กร และตำแหน่งทางกลยุทธ์ของคู่แข่ง
- สร้าง Blue Ocean Strategy: พิจารณาถึงข้อมูลที่คุณได้รับจากการวิเคราะห์ 3C Model Winning Zone และนำมาสร้างแนวคิด Blue Ocean Strategy ที่เน้นการสร้างพื้นที่การแข่งขันใหม่ที่ไม่มีคู่แข่งและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
- การวางแผนและการดำเนินการ: พัฒนาแผนการดำเนินงานเพื่อสร้างและนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่เป็นผลจาก Blue Ocean Strategy ทำการทดสอบและปรับปรุงตามความต้องการของตลาด
- ตรวจสอบและปรับปรุง: นำผลลัพธ์ออกสู่ตลาดและติดตามผลและความสำเร็จของกลยุทธ์ Blue Ocean ระหว่างการดำเนินงาน ทำการปรับปรุงและปรับแผนตามความเปลี่ยนแปลงในตลาด
การรวมกันของ Blue Ocean Strategy และโมเดล 3C Winning Zone ดีอย่างไร
การรวมกันของ Blue Ocean Strategy และโมเดล 3C Winning Zone จะช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ที่มีความสอดคล้องกับลูกค้า องค์กร และคู่แข่ง อีกทั้งสร้างความแตกต่างในตลาดที่ไม่มีคู่แข่ง นี่เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณในระยะยาว โดยความสำเร็จของกลยุทธ์นี้จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของมันต่อธุรกิจของคุณ และความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในระยะยาว
อยากเริ่มต้นทำการตลาดแบบมืออาชีพ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ให้ Waymaker เป็นที่ปรึกษาการตลาด เราพร้อมดูแลและลงลึกเกี่ยวกับมุมมองทางการตลาดใหม่ ๆ แบบที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน ตั้งแต่ขั้นตอนการวางกลยุทธ์ ไปจนถึงการจัดวางระบบวัดให้ได้ผลกำไรตาม Marketing ROI อย่ารอช้า โอกาสเพิ่มยอดขาย ขยายโอกาสกำลังรอคุณอยู่
สนใจติดต่อทีม Way Maker Tel : 0661243562
LINE : @WayMaker หรือ
Way Maker | LINE Official Account