
จัดเต็ม 8 กลยุทธ์การตลาด สำหรับนักการตลาดสายแข็ง มองภาพรวมด้วย Framework แบบเข้าใจง่าย
สวัสดีครับ วันนี้อยากจะมาแชร์วิธีที่ใช้ในการคิดงานกลยุทธ์ต่าง ๆ ซึ่งนี่เป็นเพียงบางส่วนที่คัดมาจากกลยุทธ์ที่ใช้เป็นประจำนะครับ ถ้าหากพร้อมแล้ว มารู้จักกับ 8 วิธีคิดนี้ได้เลยครับ
มองธุรกิจให้ชัดผ่านการทำ Framework
ผมอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า Framework กันก่อน Framework มีความจำเป็นมากในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เปรียบเสมือนตัวช่วยที่ทำให้การมองภาพรวมทางการตลาดหรือธุรกิจของเราชัดเจนมากขึ้น รวมถึงรู้ด้วยว่าควรเข้าหาลูกค้าอย่างไร ทำยังไงให้สินค้าและธุรกิจของเราเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าซึ่งทั้ง 8 กลยุทธ์ทางการตลาดที่คุณจะได้รู้ต่อไปนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบ Framework ที่ Work สมชื่อจริง ๆ ครับ
8 กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเอาชนะคู่แข่ง
8 กลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับนักการตลาด มีรายละเอียดดังนี้

1. 3 C's Model
3C Model คือ กลยุทธ์ทางการตลาด ที่มีชื่อเสียงมากประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ
- C - Customer ลูกค้าคือใคร
- C - Company บริษัท คุณ ทำอะไร
- C- Competitor คู่แข่ง ทำอะไร
คุณจำเป็นต้องใช้ 3C Model เพื่อหาจุดเด่นที่ชนะ หรือที่เรียกกันว่า Winning Zone

2. Buying Journey
ในส่วนของกลยุทธ์ Buying Journey มีสิ่งที่เราต้องคำนึง 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. Awareness การรับรู้
2. Consideration การตัดสินใจ
3. Purchase การซื้อ
4. Service การรับบริการ
5. Loyalty Expansion จุดที่รักในแบรนด์
ซึ่งแต่ละขั้นตอน ถ้าหากเข้าใจ จะเพิ่มโอกาสชนะในกลยุทธ์ได้ในทุกๆขั้น

3. Marketing Research 101
การวิจัยตลาด (Marketing Research) คือหนึ่งในกระบวนการทำการตลาด โดยอาศัยกระบวนการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้บริโภค เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างโอกาส และสร้างกลยุทธ์การตลาด ให้กับธุรกิจของตัวเอง

4. Marketing ROI
Marketing Return on Investment หรือ Marketing ROI สามารถใช้หาอัตราส่วนผลตอบแทนได้กับทุกการลงทุน เช่น การลงทุนกับหุ้น การลงทุนของบริษัท รวมไปถึงใช้เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของแต่ละแคมเปญการตลาดว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่

5. 5 Forces : ความกดดัน 5 อย่างที่กระทบกับกำไรอย่างมหาศาล
Michael E.Porter ได้จำแนก 5 Forces ออกมาเป็น 5 ปัจจัยด้วยกัน ดังนี้
1. คู่แข่งในอุตสาหกรรม - Rivalry among competitors
2. การแข่งขันจากผู้เล่นรายใหม่ - Threat of New Entrants
3. อุปสรรคจากสินค้าทดแทน - Threat of New substitutes
4. อำนาจต่อรองของผู้ขาย - Bargaining power of Suppliers
5. อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ - Bargaining Power of Buyers

6. การบริหารแบบ Agile
Agile (อไจล์) คือแนวคิดการทำงานแบบใหม่ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ เพื่อส่งมอบคุณค่าให้รวดเร็วขึ้น โดยเน้นการลงมือทำและความเป็นทีมเวิร์ก Agile เกิดจากการตั้งคําถามว่า จริง ๆ แล้วอะไรคือสิ่งที่จําเป็นหรือสิ่งที่ทำแล้วได้ผล และคุณสามารถทำอะไรเพื่อทำให้ทำงานให้สำเร็จท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

7. Brand Pyramid
Brad Pyramid เมื่อนำมาถอดเป็น framework จะแบ่งเป็น 4 ชั้นด้วยกัน คือ
- Brand Identity การสื่อสารความเป็นแบรนด์ออกมา ว่าแบรนด์เป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น สี โลโก้ สโลแกน ส่วนนี้จะเป็นส่วนผิว หรือส่วนฐาน ซึ่งจับต้องได้ง่ายที่สุด
- Brand Meaning แบรนด์นี้เกิดมาทำไม โดยให้ความหมายของแบรนด์ แบ่งได้ 2 แบบด้วยกัน
- เชิงเหตุผล เช่น แบรนด์นี้มีความคุ้มค่า แบรนด์นี้จัดส่งรวดเร็ว
- เชิงอารมณ์ เช่น แบรนด์นี้สวยงาม อ่อนโยน ใส่ใจเรา ซื่อสัตย์
- Brand Response แบรนด์นี้ส่งผลต่อ ความคิด หรือความรู้สึกเบื้องลึกยังไงบ้าง
- Brand Resonance ขั้นตอนสุดท้าย คือ แบรนด์นี้มันเกี่ยวข้องกับเรายังไงอาจจะพูดว่าเป็น Core values จุดต่างหรือว่าจุดที่สูงสุดของความเป็นแบรนด์นี้ คือ เราเป็นเนื้อหนึ่งเดียวกันกับแบรนด์

8. WAY Model
WAY Model ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
- W = Winning Input คือ ชุดข้อมูลที่ได้มาจากการรีเสิร์ช ที่ทำให้สินค้าของเรามีข้อได้เปรียบเหนือผู้อื่น
- A = Agile Process คือ การทำงานที่เน้นไว ลดขั้นตอนการทำงานลง เพื่อให้ผลลัพธ์การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- Y = Yield Output คือ ผลลัพธ์ ที่ธุรกิจคาดหวัง
เริ่มต้นทำการตลาดแบบ Framework เริ่มที่ Waymaker
อยากเริ่มต้นทำการตลาดแบบ Framework แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองให้ Waymaker เป็นที่ปรึกษาการตลาด เราพร้อมดูแลและแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน คุณจะได้ลงลึกเกี่ยวกับมุมมองทางการตลาดใหม่ ๆ แบบที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน ตั้งแต่ขั้นตอนการวางกลยุทธ์ ไปจนถึงการจัดวางระบบวัดให้ได้ผลกำไร อย่ารอช้า โอกาสเพิ่มยอดขาย ขยายโอกาสกำลังรอคุณอยู่
สนใจติดต่อทีม Way Maker Tel : 0661243562
Line : @WayMaker หรือ https://lin.ee/XgBNgSS