Content Management

รู้ใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโต

รู้ใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโต

กลยุทธ์การตลาด

ในการทำธุรกิจ ถ้าเราต้องการให้ประสบความสำเร็จ และธุรกิจของเรามีความแตกต่างกว่าคนอื่น เราต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่จะทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากที่สุด หนึ่งในนั้นคือการสร้างกลยุทธ์การตลาด ถ้ากลยุทธ์ที่เราได้วางแผนออกมาสามารถที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ นั่นก็จะส่งผลให้ธุรกิจมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น

นอกจากนี้กลยุทธ์ยังเป็นเครื่องมือในการแข่งขันกับธุรกิจที่เป็นคู่แข่งของเรา โดยการจะสร้างกลยุทธ์ขึ้นมา เราควรวางแผนให้ดีในหลาย ๆ เรื่อง เช่น งบประมาณค่าใช้จ่ายทางการตลาด และควรจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ความหมายของกลยุทธ์การตลาด

กลยุทธ์ หมายถึง แผนสำคัญที่ถูกวางไว้สำหรับดำเนินงานใด ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จ และเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้

กลยุทธ์การตลาด หมายถึง แนวทางการทำการตลาด หรือ แบบแผนที่ถูกวางไว้เพื่อกำหนดทิศทางในการสร้างสินค้า หรือบริการ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจตัวเองมากที่สุด โดยจะต้องจัดสรรทรัพยากร และแบ่งใช้สัดส่วนทางการตลาดต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการดำเนินงาน รวมไปถึงขั้นตอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์ การกำหนดกลยุทธ์ส่วนผสม และการกำหนดตลาดเป้าหมายทางการตลาดอย่างชัดเจน เพื่อที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้

กลยุทธ์การตลาดมีอะไรบ้าง?

กลยุทธ์ทางการตลาดจริง ๆ แล้วมีหลากหลายประเภทมาก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรเรามากที่สุด ยิ่งเราเลือกใช้กลยุทธ์ได้เหมาะสมมากเท่าไร โอกาสที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น โดยจะขอยกตัวอย่างกลยุทธ์ขึ้นมา 7 ประเภทที่หลาย ๆ ธุรกิจมักจะเลือกใช้ ดังนี้

1. กลยุทธ์ต้นทุนต่ำ

กลยุทธ์นี้ส่วนใหญ่จะเหมาะกับธุรกิจขนาดกลาง หรือธุรกิจขนาดเล็กที่มีกำไรค่อนข้างน้อย และไม่สามารถที่จะลดราคาสินค้า บริการได้มากนัก จึงจำเป็นที่จะต้องลดต้นทุนทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยการลดต้นทุนจะเป็นการให้พนักงานในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการหาแนวทางลดต้นทุนในงานที่ตนเองเกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูล หลังจากได้ข้อมูลมาแล้วจะเริ่มหาแนวทางแก้ไขในการลดต้นทุน และเปรียบเทียบข้อมูลก่อน-หลังการดำเนินการ รวมไปถึงรักษาแนวทางตามกลยุทธ์ใหม่ต่อไป

2. กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง

ในปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว และมักจะชอบอะไรใหม่ ๆ และแตกต่าง ทำให้แต่ละธุรกิจต้องหาทางตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ด้วยการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า หรือบริการของตนเอง เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความแปลก ล้ำสมัย ในเรื่องของรูป รส กลิ่น เสียง ที่แปลกใหม่ออกไป หรือเราจะสร้างความแตกต่างโดยการสร้างเรื่องราวให้กับสินค้า บริการ ที่จะสามารถทำให้ผู้บริโภคจดจำได้

3. กลยุทธ์การให้บริการอย่างเฉพาะเจาะจง

กลยุทธ์นี้สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจะเป็นคนสำคัญ เช่น การบริการหลังการขาย คอยติดต่อสอบถามลูกค้าอยู่เสมอ หรือให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นสมาชิกพิเศษ โดยการได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ก่อนลูกค้าทั่วไป หรืออีกวิธีหนึ่งคือ การส่งบัตรอวยพร หรือบัตรส่วนลดให้กับลูกค้าในวาระพิเศษต่าง ๆ เช่น วันเกิดของลูกค้า

4. กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

การใช้กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า จะทำให้ธุรกิจของเราเกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้า และธุรกิจของเรา ส่งผลให้ลูกค้าจะเกิดความผูกพันธ์กับสินค้า หรือบริการของเรา โดยวิธีที่จะสามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันธ์กับธุรกิจของเรา อาจจะทำได้โดย ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการคิดรสชาติ หรือสโลแกนใหม่ให้กับสินค้าของเรา โดยหลังจากที่ร่วมแสดงความคิดเห็นแล้ว เราอาจจะมีการมอบของรางวัลเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อลูกค้า

5. กลยุทธ์วางแผนเลือกใช้สื่อ

ในบางธุรกิจ เมื่อมียอดขายที่ไม่ดี อาจจะทำการลดค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสารทางการตลาดลงไป เพราะคิดว่าจะช่วยลดต้นทุนลง แต่ความจริงแล้ว เราไม่ควรตัดงบประมาณทั้งหมด แต่ควรเลือกใช้สื่อให้เหมาะกับสินค้าหรือบริการของเราก็จะส่งผลดีให้กับธุรกิจได้มากกว่า เช่น

  • การสื่อสารผ่านทางออนไลน์ เช่น การทำโฆษณาลงเว็บไซต์ หรือแพล็ตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Twitter เป็นต้น ซึ่งการสื่อสารผ่านทาง Social Media จะมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก แต่ก็ต้องมีการวางแผนมาให้ดีก่อนจะลงมือทำจริง ๆ
  • การสื่อสารแบบดั้งเดิม โดยการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ไม่ใช่สื่อออนไลน์ เช่น นิตยสาร โทรทัศน์ เพื่อสร้างการรับรู้จากแบรนด์ถึงผู้บริโภค หรือใช้การส่งเสริมการตลาดร่วมไปด้วย เช่น การลดราคา เป็นต้น

6. กลยุทธ์บอกต่อ

กลยุทธ์นี้เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยสร้างยอดขาย และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเรา เพราะคำพูดของลูกค้าคือประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้จริง ลูกค้าจะเชื่อสิ่งที่พูดมาจากคนที่เป็นลูกค้าด้วยกันเอง มากกว่าจะเชื่อจากสื่อโฆษณาต่าง ๆ

7. กลยุทธ์อำนวยความสะดวกสบาย

การซื้อสินค้า หรือบริการ ในบางขั้นตอนอาจมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ซึ่งแน่นอนว่าผู้บริโภคต้องการอะไรที่มีความสะดวก และมีขั้นตอนที่ง่าย ดังนั้น การจะนำเสนอสินค้า หรือบริการ ควรจะมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบายของลูกค้า เช่น ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า และการชำระเงินที่ง่าย ไม่ซับซ้อน หรือสามารถสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กลยุทธ์ที่ดีควรเป็นอย่างไร?

การทำกลยุทธ์การตลาดที่ดีควรจะมีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สามารถทำให้ธุรกิจเกิดการประสบความสำเร็จสูงสุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้

1. ตั้งเป้าหมายทางการตลาด

ก่อนที่เราจะสร้างกลยุทธ์หนึ่งขึ้นมา เราจะต้องตั้งเป้าหมายให้ธุรกิจขึ้นมาก่อนว่าธุรกิจของเราต้องการอะไร และเมื่อเรารู้แล้ว ก็จะสามารถนำไปดำเนินแผนการต่อไปได้ โดยเป้าหมายต่าง ๆ ที่เราต้องการ เราต้องลิสต์เพื่อความชัดเจนในการทำกลยุทธ์ เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้า หลังจากที่รู้เป้าหมายแล้วก็จะทำให้สามารถสร้างกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น

2. ทำความรู้จักตัวเอง และรู้จักตลาด

สิ่งสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ เราควรรู้จักธุรกิจของตัวเองมากที่สุด รวมไปถึงรู้จักตลาดด้วยเช่นกัน

  • รู้จักตัวเอง เราควรรู้ถึงจุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจของตัวเอง และควรวิเคราะห์โอกาส และอุปสรรคที่จะส่งผลกับธุรกิจ โดยขั้นตอนนี้สามารถทำได้โดยการใช้เครื่องมือ SWOT Analysis หรือกลยุทธ์ทางการตลาด 4P หรือ 4C ก็ได้ การวิเคราะห์แบบนี้จะทำให้เราทราบว่าธุรกิจของเราอยู่ในจุดไหน
  • รู้จักตลาด ควรศึกษาสิ่งที่เรากำลังต้องการจะขาย ว่าสิ่งนั้นมีลูกค้า หรืออุปสงค์มากน้อยแค่ไหน และในตลาดมีคู่แข่ง หรืออุปทานมากน้อยแค่ไหน และควรวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของตัวเอง

3. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

ในการสร้างกลยุทธ์ เราจะต้องมีภาพในหัวว่ากลุ่มลูกค้าในตลาดเป็นลูกค้ากลุ่มไหน และควรจะรู้ว่าลูกค้าชอบอะไร ดูสื่อจากช่องทางไหนบ้าง แล้วธุรกิจของเราจะเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร เมื่อเรารู้ข้อมูลเหล่านี้แล้ว เราก็สามารถสร้างกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น

4. การจัดสรรทรัพยากร

กลยุทธ์ที่ดีจะต้องมีการจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ทรัพยากรด้านบุคคล ทรัพยากรด้านการลงทุน โดยที่มีการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ที่สุด

5. วัดผล และปรับปรุงอยู่เสมอ

เมื่อได้ลงมือทำตามกลยุทธ์ที่ตั้งขึ้นแล้ว การวัดผล และนำมาปรับปรุงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราจะได้รู้ว่าอะไรในธุรกิจของเราที่ควรจะทำต่อ หรืออะไรที่ควรหยุด และควรนำงบประมาณไปลงทุนกับอะไรมากที่สุด

Marketing 5.0 และ Agile Marketing

กลยุทธ์การตลาด Waymodel

ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ

  1. W : Winning Input
  2. A : Agile Process
  3. Y : Yield Output

อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.waymaker.co.th/post/way-model
ทางบริษัท Way Maker ได้คิดค้น Way Model โดยใช้แนวคิดจาก Markering 5.0, Agile Marketing

  • Marketing 5.0 เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงมาปรับใช้ในการตลาด โดยการประมวลข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ มาใช้ในการวิเคราะห์ และการตัดสินใจอย่างเหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยขอยกตัวอย่างหนึ่งเครื่องมือ คือ Agile Marketing
  • Agile marketing เป็นกระบวนการทำงานที่เน้นความคล่องตัวมากที่สุด สามารถปรับเปลี่ยน และนำเสนอสินค้า บริการใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวคิดหลัก ๆ ของ Agile Marketing คือ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงมากกว่าการทำตามแผน , ทำการทดสอบ และเชื่อในข้อมูลจากผลการทดสอบมากกว่าความคิดเห็น โดย Agile Marketing ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : วางกรอบเป้าหมาย เป็นขั้นตอนแรกที่จะให้ทุกคนอยู่ในความเข้าใจ และมีเป้าหมายเดียวกัน และเมื่อมีเป้าหมายแล้ว จะสามารถนำไปสู่การกำหนดรูปแบบการทำการตลาดได้
ขั้นตอนที่ 2 : สร้างทีม Agile Marketing
โดยพนักงานภายในทีมจะมีหน้าที่สร้าง ทดลองแคมเปญการตลาดใหม่ ๆ และนำแคมเปญที่มีผลตอบรับดี มาปรับใช้กับแคมเปญอื่นในอนาคต
ขั้นตอนที่ 3 : เริ่มจากทำแคมเปญเล็ก ๆ ก่อน
ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนให้เจอกับแนวทางที่เหมาะสมได้ และการทำแคมเปญเล็ก ๆ ยังสามารถช่วยคำนวณงบประมาณที่เราจะต้องใช้ได้หากต้องทำแคมเปญใหญ่
ขั้นตอนที่ 4 : วัดผลและประเมินผล
การวัดผลจะทำให้เราทราบว่าในธุรกิจของเราเหมาะสมกับแคมเปญแบบใดมากที่สุด และเมื่อรู้แล้วก็จะทำให้สามารถนำแคมเปญนั้น ไปพัฒนา หรือต่อยอดได้ในอนาคตให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับองค์กรต่อไป

การวัดผลสำเร็จของกลยุทธ์ที่ใช้

การวัดผลหลังจากที่เลือกใช้กลยุทธ์การตลาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะบ่งบอกได้ว่า กลยุทธ์ที่เลือกใช้นั้นประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว และเพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ที่เลือกนั้นเหมาะสมกับความต้องการ และสถานการณ์ของธุรกิจหรือไม่ โดยอาจจะวัดผลด้านการเงิน หรืออาจวัดผลโดยใช้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรก็ได้

รีวิวจากลูกค้า Way Maker

Way Maker บริษัทที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ โดยวิทยากรทุกท่านมีความรู้ และประสบการณ์ทางการตลาดเกือบ 10 ปี สำหรับนักธุรกิจ เจ้าของกิจการที่ต้องการพัฒนาธุรกิจของท่านให้เติบโตขึ้นโดยใช้กลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ เรายินดีให้คำปรึกษา เพราะเราเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกท่าน Way Maker เราเน้นการเติบโตใน ROI Marketing ระยะยาว และให้ความสำคัญกับความ Win-Win ในการทำธุรกิจมาก ๆ

  • ด้านระยะสั้น (Quick Win) เราช่วยเพิ่มผลลัพธ์ด้านยอดขาย ด้านเงินลงทุน ด้านการหาลูกค้าใหม่ ด้านการทำให้รู้จักลูกค้า
  • ด้านระยะยาว (Long-term win) เราช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การสร้างแบรนด์ การหานวัตกรรมใหม่ ๆ การทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำ และ ลูกค้ารักแบรนด์มากขึ้น

และนี่คือส่วนหนึ่งของผลลัพธ์ในบริษัทที่เราดูแล หากท่านใดต้องการผลลัพธ์เหล่านี้ ที่วัดผลได้เป็นรูปธรรม ติดต่อ ทีมที่ปรึกษาจาก Way Maker ได้เลยครับ (ปรึกษาครั้งแรก ไม่มีค่าใช้จ่าย) เพราะเราคือ Way Maker ผู้สร้างหนทาง ให้ธุรกิจเติบโตได้ We Make Ways Possible โดยสามารถดูรีวิวของลูกค้า Way Maker เพิ่มเติมได้ทาง https://www.waymaker.co.th/tools

ดูบริการอื่น ๆ ของ Way Maker

หากคุณต้องการที่จะให้ธุรกิจเติบโต ประสบความสำเร็จจากการวิจัยการตลาด บริการของ Way Maker สามารถให้คำปรึกษาแก่คุณได้ Way Maker เป็นทีมที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ ทีมงานผู้มีความเชี่ยวชาญในวงการ ให้คำปรึกษาการตลาดดิจิทัลเกือบ 10 ปี และ Way Maker เป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่แห่งที่ปรึกษาการตลาด และ ได้รับการการันตีความพึงพอใจของลูกค้า 90% รวมไปถึงมีหนังสือ Best Seller “Marketing Research 101 คู่มือเข้าใจกลยุทธ์ทางการตลาดฉบับสมบูรณ์” และ คอร์สออนไลน์ Marketing Research 101 เข้าใจลูกค้าให้ถึงแก่น

ดูรีวิวจากลูกค้าอีกมากมายได้ที่ https://www.waymaker.co.th/tools และสามารถดูบริการอื่น ๆ ของ Way Maker ได้ที่
เว็บไซต์ :  https://www.waymaker.co.th/
Tel. : 0661243562
Line : @WayMaker หรือ https://lin.ee/XgBNgSS

Author

Nakamol A.

Full-time CEO of Way Maker and part-time writer.