กลยุทธ์ที่นักธุรกิจเครื่องประดับต้องจับตามอง
หากให้พูดถึงวงการธุรกิจเครื่องประดับทั้ง แหวน สร้อยคอ ต่างหูหรืออัญมณีต่าง ๆ สำหรับนักการตลาดจะประมาทไม่ได้เด็ดขาดเลยนะครับ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอย (สูง) มาก แม้หลายคนจะมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเช่นกัน ที่ชอบลงทุนกับสินค้าชนิดนี้อยู่เสมอครับ
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับกลยุทธ์เด็ด ๆ ที่นักธุรกิจเครื่องประดับหรือนักการตลาดเช่นคุณ ต้องจับตาไว้ให้ดี ว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจของเรามีทั้งความแตกต่างและความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกิจออนไลน์ปรับตัวไปในทุกวันครับ
5 กลยุทธ์ยุคใหม่ที่เอาใจผู้บริโภคในยุคนี้
1. Custom Design
ปัจจุบันนี้ เทรนด์การปรับแต่งเครื่องประดับตามความต้องการของลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็จะเป็นพวกสร้อยข้อมือ ต่างหู และแหวน แม้กระทั่งร้านค้าระดับ High-end หลายแบรนด์ก็ปรับตัวเพื่อตอบสนองเทรนด์นี้ของลูกค้าด้วย หลายท่านต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่อยากเหมือนใครหรือบางคนอาจต้องการเป็นของขวัญให้คนที่รักในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น การสลักชื่อหรือวันที่สำคัญพิเศษลงบนเครื่องประดับ เป็นต้น ฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่เชื่อเถอะครับว่า มันมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับลูกค้าเหล่านี้มาก จากการติดตามการตลาดที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า เทรนด์นี้มีผลต่อยอดออเดอร์สินค้าของแต่ละร้านเป็นจำนวนมากครับ
2. การรับประกันและใบ Certificate บอกเล่าคุณภาพจากสิ่งที่เป็นมาตรฐาน
ลูกค้าจะเชื่อมั่นและไว้ใจสินค้ามากขึ้น หากสินค้าของคุณมีทั้งการรับประกันเพื่อยืนยันการดูแลหลังการขายและใบรับรองคุณภาพ (Certificate) จากหน่วยงานที่ได้การรับรองและมีมาตรฐานสากลอย่างเช่น GIT เป็นต้น ทำไมถึงสำคัญขนาดนั้น? ก็เพราะว่าเป็นสินค้าราคาสูง และลูกค้าบางรายอาจจะนำไปขายต่อเพื่อเก็งกำไรครับ หากสินค้าของคุณมีการรับประกันและการรับรองคุณภาพแบบนี้ จะทำให้ลูกค้าของคุณหมดกังวล แล้วตัดสินใจซื้อจากร้านของคุณแน่นอน เนื่องจากหลาย ๆ ร้านมักมองข้ามจุดนี้กันครับ
3. Mix and Match
ใครบอกว่า เครื่องประดับราคาแพงมีไว้ใช้เฉพาะแค่งานสำคัญ ๆ อย่างเช่น งานหมั้นหรือเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษอย่างเดียวเท่านั้น บอกได้เลยว่า ไม่จริงเสมอไปนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้เรามีลูกค้าใหม่ ๆ เช่น สาวทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย กล้าที่จะแต่งตัวและใช้เครื่องประดับมากขึ้น เป็นต้น การปรับธุรกิจเครื่องประดับของคุณให้เป็นรูปแบบ Mix and Match ที่สามารถนำมาสวมใส่ได้เลยในชีวิตประจำวันได้ นับเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีและเปิดโอกาสให้คนรู้จักสินค้าของเรามากยิ่งขึ้นครับ
4. Online Shopping
ในยุคนี้การใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นวิธีการที่ร้านเครื่องประดับทุกร้านต้องทำอยู่แล้ว เพราะสามารถนำเสนอสินค้าแก่กลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงและเร็วที่สุด โดย platform ที่ผมว่าน่าจะ work มากที่สุดสำหรับเครื่องประดับ ณ ตอนนี้เลยก็คือ Instagram ครับ ถ้าถามว่า แล้วทำไมต้อง IG ด้วย? จุดเด่นที่เหนือกว่า platform อื่น ๆ เลยคือ การแสดงภาพสินค้าที่ชัดเจน โดดเด่น สามารถเลื่อนดูโพสต์จากร้านต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ หากถูกใจสินค้าชิ้นไหน ก็แค่จิ้มลงบนสินค้าในรูปนั้น ราคาสินค้าก็จะปรากฎขึ้นมาทันที และถ้าหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เพียงแตะที่รูปสองครั้ง ก็จะมีลิงก์พาไปยังเว็บไซต์ของร้านได้เลย ถือได้ว่า แทบจะอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอนสำหรับนักชอปออนไลน์ และที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณคือ มันเป็นช่องทางการตลาดที่มีค่าใช้จ่ายต่ำแต่ความสามารถในการเข้าถึงสูง แถมรูปแบบการโฆษณาใน IG ไม่ได้ถูกจำกัดในรูปแบบเดิม ๆ อีกต่อไป ทั้งการกระตุ้นการรับรู้ผ่านรูปภาพหรือวีดิโอของเหล่าดาราและ Influencer ที่โชว์สินค้าของคุณผ่าน Lifestyle ต่าง ๆ นั้นช่วยดึงดูดลูกค้าสำหรับธุรกิจคุณมาก ๆ ครับ
5. E-Payment
ในยุคที่ธุรกรรมทางการเงินแทบทุกอย่างสามารถทำได้ในมือถือ ความสะดวกสบาย การบริการที่ครบถ้วนและความปลอดภัย ถือว่าเป็น Key Success ที่เราไม่ควรมองข้ามนะครับ การที่เรามีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถชำระผ่าน E-Payment แล้ว หากมีโปรโมชั่นร่วมกับธนาคารหรือการผ่อน 0% ในระยะเวลาที่เหมาะสม ก็จะเป็นทางเลือกที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ไวขึ้นครับ
Way maker เป็นที่ปรึกษาการตลาด ดูแลตั้งแต่การวิจัยตลาด วางแผน บริหารงาน จนกระทั่งได้ผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง ไม่ใช่แค่ Media แต่เป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจ
ลูกค้ากว่า 90% ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังเพราะเรามี Marketing Forecast เพื่อดูว่า ROI ธุรกิจควรทำการตลาดแบบไหน จึงทำให้การว่าจ้างที่ปรึกษาแล้ว จะได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจเติบโตอย่างแน่นอนครับ
เราพร้อมดูแลแบรนด์คุณเหมือนเราเป็นเจ้าของเอง
ติดต่อเพื่อประเมินแผนการตลาดและธุรกิจกับเรา
📥: Line : @WayMaker
📞: 066-124-3562
🌐: www.waymaker.co.th