พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะทำการตลาดต้องตามให้ทัน
รู้ก่อนได้เปรียบใครต่อใครเพราะแค่ปรับตัวไวคงไม่พอ!
ปัจจุบัน The Rapid Growth of Cashless Society การกระจายของสังคมไร้เงินสดอย่างรวดเร็วเกิดจากสองปัจจัยหลัก
- เศรษฐกิจไร้สัมผัส (Contactless Economy) แค่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวก็สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งเลือกซื้อสินค้า
และชำระค่าสินค้าได้ สร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น
- การชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างอิสระ (Cross-Border Digital Currency)
เนื่องจากนวัตกรรมปัจจุบันนี้ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสามารถโอนเงินไปยังต่างประเทศได้รวดเร็ว ไม่ต้องไปที่สาขา ทำธุรกรรมได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และที่สำคัญ เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เนื่องจากความสะดวกรวดเร็วของการรับเงินที่เกิดขึ้นได้ทันใจมากขึ้น ภายในไม่เกิน 3 วัน และไม่มีค่าธรรมเนียมธนาคารต่างประเทศอีกด้วย
โดยที่พูดมาทั้งหมดจะทำให้เกิด การซื้อขายในช่องทางออนไลน์อย่างแพร่หลาย ผู้บริโภคก็เริ่มมีการใช้งานผ่าน E-Payment ทั้งบัตรเครดิต ระบบ E-Wallet หรือแอพชำระเงินต่ต่างๆ มากขึ้นกว่าในอดีต ทำให้ธุรกิจ E-commerce ที่เคยค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ สู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงิน
ทำให้เกิด พฤติกรรมและ Segment ใหม่ ได้แก่
- Touchless Store Experience เน้นตอบสนองลูกค้าที่ต้องการพบปะผู้คน ในขณะที่ยังระมัดระวังเกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัย โดยร้านค้ามีบริการแบบไร้สัมผัสในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
- Drive-through ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความเร็วและความเรียบง่าย ไม่ค่อยคิดถึงปฏิสัมพันธ์จากมนุษย์ เพียงมีเคาน์เตอร์เช็คอินอัตโนมัติก็พอแล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังชอบตรวจเช็คผลิตภัณฑ์และบริการของตน คุณค่าที่ต้องการสำหรับลูกค้าดังกล่าว คือ Customer Journey ออนไลน์ถึงออฟไลน์ที่รวดเร็วและปลอดภัย แบบไร้รอยต่อ
- Shut-In Shoppers กลุ่มนี้เน้นการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ สินค้าที่สั่งจะจัดส่งในรูปแบบ Home Delivery รอรับของได้ในระหว่างอยู่บ้าน ซึ่งเป็นหนึ่งใน Personalized Marketing ที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ของ Contactless กับ Cashless ปัจจุบันแทบทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคล้วนเกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น Payment (การชำระเงิน) ยิ่งสำคัญมากขึ้นในช่วงที่มีการระบาดครั้งใหญ่ จึงเป็นตัวเร่งให้ทุกคนเข้าสู่ยุค Next Normal ส่งผลให้ Customers aren’t Staying Loyal Anymore ความภักดีของลูกค้าอาจหายากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อยอดสั่งซื้อและการคาดคะเนของให้บริการและต้นทุนของวัตถุดิบที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือ
ลูกค้ายังคงคาดหวังประสบการณ์ที่ตรงกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ มีความจำเพาะและปรับรูปแบบให้เข้ากับพวกเขามากที่สุด ซึ่งนักการตลาดต้องหลีกเลี่ยงการให้ความสำคัญเฉพาะแค่แคมเปญ และต้องไม่ลืมว่าลูกค้าไม่ได้ตอบสนองต่อแบรนด์ด้วยช่องทางนี้เพียงช่องทางเดียว จึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจพฤติกรรมและประสบการณ์ต่าง ๆ ของลูกค้าให้มาก โดยวิธีการหนึ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือการ Road Map User Experience สำหรับลูกค้า ซึ่งจะแสดงภาพกระบวนการต่าง ๆ ของลูกค้าตั้งแต่การคิดและการตัดสินใจซื้อ วิธีการนี้จะทำให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้ามากขึ้นและทำการตลาดได้ตรงกับความต้องการของพวกเขาได้ในที่สุด
เนื่องจากมี ราคาและความสะดวกสบายเป็นปัจจัยหลักของการตัดสินใจซื้อ หากคุณมีช่องทางการติดต่อกับลูกค้าที่หลากหลายแพลทฟอร์มย่อมได้เปรียบมากในยุคปัจจุบัน ช่องทางออนไลน์แพลทฟอร์มต่างๆเหล่านี้คือการมอบประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้านั่นเอง
ปัจจุบัน บริษัท เวย์เมคเกอร์ ให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์และวางแผนกลยุทธให้กับสินค้าที่เน้นความสะดวกและรวดเร็วในการใช้บริการในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นในปัจจุบัน และเน้นยอดขายที่วัดผลได้ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่หลายๆบริษัท ติดต่อ Way Maker เพื่อเป็นที่ปรึกษาระยะยาว
Way Maker เราเป็นที่ปรึกษาการตลาด ดูแลตั้งแต่การวิจัยตลาด วางแผน บริหารงาน จนกระทั่งได้ผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง ไม่ใช่แค่ Media แต่เป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจ
ลูกค้ากว่า 90% ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังเพราะเรามี Marketing Forecast เพื่อดูว่า ROI ธุรกิจควรทำการตลาดแบบไหน จึงทำให้การว่าจ้างที่ปรึกษาแล้ว จะได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจเติบโตอย่างแน่นอนครับ
ถ้าคุณอยากทำงานกับที่ปรึกษาในรูปแบบนี้ ติดต่อ Way Maker ได้เลยนะครับ
ปรึกษาได้ที่นี่ LINE : @WayMaker หรือหากต้องการปรึกษาด่วนโทร 066-124-3562